สมาคมฯ โดย ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช นายกกิตติคุณและกรรมการสมาคม ให้สัมภาษณ์กับคณะนักวิจัยจากมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเครษฐกิจการคลัง (มูลนิธิ สวค.) ในประเด็นความเหมาะสมในการใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์/มาตรการจูงใจเพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ในสาขาประมงและการผลิตสินค้าประมง โดยมีสาระสำคัญจากการสัมภาษณ์ ดังนี้

- คณะนักวิจัยได้สอบถามความเห็นของสมาคมฯต่อมาตรการทางเศรษฐศาสตร์/มาตรการจูงใจเพื่อการผลิตที่ยั่งยืน ด้านประมง รวมถึงข้อเสนอแนะต่อมาตรการดังกล่าว เพื่อนำไปเสนอให้กับภาครัฐนำไปพิจารณากำหนดแนวทางการขับเคลื่อนมาตรการในอนาคต โดยผลจากการรวบรวมข้อคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะถูกจัดทำเป็นรายงานผลการศึกษาและเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)

- ในส่วนของ ดร.ผณิศวร ได้ชี้แจงว่า สำหรับด้านการประมงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การจับจากทะเล และการเพาะเลี้ยง ซึ่งในปัจจุบันหลายประเทศที่มีการทำการประมงและการผลิตสินค้าประมงก็มีความถนัดและข้อได้เปรียบแตกต่างกันขึ้นกับเทคนิคและเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว (Post Harvest) ที่แตกต่างกันไปด้วย

- ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและการประมงยั่งยืน (Sustainable) ก็เป็นประเด็นที่หลายประเทศจับตามองและเริ่มให้ความสำคัญ เนื่องจากแหล่งทรัพยากรประมง ทั้งการจับจากทะเลและการเพาะเลี้ยงก็มีแนวโน้มลดลง จึงมีการจัดทำมาตการต่างๆ ขึ้น เพื่อควบคุมการทำประมงให้อยู่ในระดับที่ยั่งยืนและเหมาะสมกับปริมาณการบริโภคในปัจจุบัน โดยมาตรการที่เกิดขึ้น ได้แก่ การกำหนดโควต้าปริมาณการทำการประมง การกำหนดวันออกทำการประมง การกำหนดเครื่องมือประมงที่เหมาะสม เป็นต้น

- ในส่วนมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันสำหรับอุตสาหกรรมนี้ ได้แก่ ความแตกต่างของกลุ่มประเทศผู้บริโภคและภาคการผลิต (สหรัฐฯ นิยมบริโภคกุ้งแปรรูป ในขณะที่จีนบริโภคกุ้งสด ก็จะมีประเทศผู้ผลิตกุ้งที่ส่งออกแตกต่างไปตามกลุ่มการบริโภคด้วย), การกำหนดราคาสินค้าประมงส่วนใหญ่มีพ่อค้าคนกลางเข้ามามีส่วนในการกำหนดราคาทำให้ราคาของสินค้าประมงมีความแตกต่างกันไป เป็นต้น

ทั้งนี้ คณะนักวิจัยฯ ได้ขอขอบคุณสมาคมฯ ที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ และจะรวบรวมเพื่อสรุปเป้นผลการวิจัยและเสนอต่อ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ต่อไป