Mr.Dharmendra Singh, เลขานุการเอก ด้านเศรษฐกิจและการพาณิชย์ (First secretary : Economic & Commercial) เป็นหัวหน้าคณะสถานฑูตอินเดีย ประจำประเทศไทย เข้าพบสมาคมฯ โดยมี คุณอนุชา เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมฯ, คุณวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล อุปนายกสมาคมฯ และ คุณส่องแสง ปทะวานิช ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ พร้อมด้วย คุณเสาวนีย์ คำแฝง ผู้อำนวยการสมาคมฯ เข้าร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ การเข้าพบดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจในด้านการประมงในหมูjเกาะอันดามันและนิโคบาร์ โดยทางสถานฑูตอินเดีย ประจำประเทศไทย ชี้แจงว่า หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ มีแหล่งทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะ ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล และ ปลาหมึก อย่างไรก็ตาม ในหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ยังขาดการสนับสนุนในส่วนของเทคโนโลยีด้านการประมงที่ดี ที่จะช่วยรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ รวมถึง Know-How ด้านการผลิตสินค้าประมงประเภทเพิ่มมูลค่า (Value Added Products) จึงอยากจะขอให้สมาชิกสมาคมฯ ที่สนใจเข้าไปร่วมลงทุนและแลกเปลี่ยน Know-How ทั้งด้านการประมงและการผลิตสินค้าเพิ่มมูลค่า โดยอาจส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการแปรรูปสินค้าประมงเพิ่มมูลค่า เข้าไปสอนให้กับผู้ประกอบการในอินเดีย เพื่อให้เพิ่มขีดความสามารถในการแปรรูปสินค้าประมงในอนาคต

ในส่วนของสมาคมฯ คุณวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล อุปนายกสมาคมฯ ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบัน มีบริษัทไทยบางรายที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ เข้าไปร่วมลงทุนและเปิดบริษัทที่อินเดียในอุตสาหกรรมประมงและการเพาะเลี้ยงอยู่บ้าง ทั้งนี้ หากทางสถานฑูตฯ มีข้อมูลสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนประการใด ก็ขอให้จัดส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับสมาคมฯ เพื่อเวียนประชาสัมพันธ์ให้กับสมาชิกที่สนใจต่อไป

สำหรับ คุณอนุชา เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมฯ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการประมงปลาทูน่าและการแปรรูปนั้น ทางสมาคมฯ แนะนำให้ประสานเพื่อขอเข้าหารือไปยังสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทางสถานฑูตฯ นอกจากนี้ สำหรับประเด็นด้านการแลกเปลี่ยน Know-How ด้านการแปรรูปสินค้าเพิ่มมูลค่า นั้น แต่ละโรงงานก็มีเทคนิคการผลิตที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเทศที่ส่งออกและบริษัทที่นำเข้า จึงเป็นไปได้ยากที่จะแนะนำผู้เชี่ยวชาญเพื่อไปสอน Know-How ในส่วนนี้ได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทในประเทศอินเดียมีขีดความสามารถด้านการผลิตสินค้าประมงสูงขึ้นมากเมื่อเทียบจากในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งหากต้องการพัฒนาการผลิตสินค้าประมงเพิ่มมูลค่า อาจเรียนรู้ผ่านกฎระเบียบและมาตรฐานการผลิตของประเทศคู่ค้า และขอความร่วมมือจากผู้นำเข้าของแต่ละรายเพื่อสอนและถ่ายไทอดเทคโนโลยีการผลิตสินค้าประมงได้ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้าได้โดยตรง

ทั้งนี้ Mr.Dharmendra Singh ได้กล่าวขอบคุณสมาคมฯ ที่ได้ให้คำแนะนำให้กับทางสถานฑูตฯ และจะนำข้อเสนอไปดำเนินการในขั้นตอนถัดไป นอกจากนี้ ทางสถานฑูตฯ ได้ขอฝากประชาสัมพันธ์ เรียนเชิญสมาคมฯ และสมาชิกเข้าร่วมงาน World Food India 2023 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที 3-5 พฤศจิกายน 2566 ณ เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดียด้วย