สมาคมฯ โดย คุณอนุชา เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมฯ และคุณส่องแสง ปทะวานิช ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมฯ พร้อมด้วย คุณเสาวนีย์ คำแฝง ผู้อำนวยการสมาคมฯ ให้การต้อนรับ Mr.Muhammad Farukh Sharif : Trade & Investment Counsellor สถานฑูตปากีสถาน ประจำประเทศไทย ซึ่งขอเข้าพบสมาคมฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางการค้าสินค้าประมงระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงประชาสัมพันธ์การจัดงานแสดงสินค้า FoodAg 2023 โดยมีสาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้

1. การเชิญเข้าร่วมงานแสดงสินค้า FoodAg 2023

หน่วยงาน Trade Development Authority of Pakistan (TDAP) และสถานฑูตปากีสถาน ประจำประเทศไทย มีกำหนดจัดงานแสดงสินค้า FoodAg 2023 ระหว่างวันที่ 10-12 สิงหาคม 2566 ณ Expo Center เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านเกษตรและอาหารของปากีสถาน และขอเชิญชวนสมาคมฯ และสมาชิก เดินทางไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าดังกล่าว โดยทางหน่วยงาน TDAP ยินดีที่จะสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักให้กับผู้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานดังกล่าว

คุณอนุชา เสริมว่า สมาคมฯ ได้ประชาสัมพันธ์การจัดงานแสดงสินค้านี้ให้กับสมาชิกสมาคมฯ ไปแล้ว โดยหากสมาชิกท่านใดสนใจเข้าร่วมงานดังกล่าว สามารถแจ้งกลับไปยังสมาคมฯ ได้ที่ tffa2information@gmail.com หรือโทรศัพท์ 02 235 5622-4 เพื่อประสานงานกลับไปยังสถานฑูตฯ ต่อไป

2. ความร่วมมือด้านการค้าสินค้าประมงระหว่างทั้งสองประเทศ

Mr.Farukh ได้ชี้แจงว่า ความร่วมมือทางการค้าสินค้าประมงระหว่างไทยและปากีสถานมีมาอย่างยาวนาน และได้รับความร่วมมืออันดีจากสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยและสมาชิกในการช่วยผลักดันการค้าสินค้าประมงมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการนำเข้าสินค้าประมงจากปากีสถาน และการเข้าร่วมเป็นวิทยากรในการสัมมนาต่างๆ ที่ทางสถานฑูตฯ จัดขึ้น โดยประเทศไทยจัดเป็นประเทศหลักที่มีการนำเข้าสินค้าประมงจากปากีสถาน รองจากประเทศจีน ในส่วนของสินค้าประมงที่ไทยนำเข้าจากปากีสถาน ได้แก่ Sardine, Indian Makerel, ปลาหมึก และปู เป็นต้น

คุณอนุชา กล่าวว่า การนำเข้าสินค้าประมงของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับวัตถุดิบที่ขาดแคลนภายในประเทศและให้เพียงพอต่อการผลิตและส่งออกของสถานประกอบการไทย โดยเฉพาะกุ้ง ปลาหมึก และปลา (รวมถึงซูริมิ) อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามสมาชิก วัตถุดิบที่นำเข้ามาจากปากีสถานก็ยังพบปัญหาด้านคุณภาพของวัตถุดิบค่อนข้างมาก และการติดต่อกับผู้ผลิตในปากีสถานค่อนข้างยาก จึงเสนอให้ปากีสถานสนับสนุนและปรับปรุงภาคการผลิตสินค้าประมงในปากีสถานให้ดีขึ้นกว่านี้ ก็จะสามารถช่วยให้การลงทุนและการค้าสินค้าประมงในปากีสถานดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

คุณส่องแสง กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวและบริการของประเทศไทยก็มีแนวโน้มดีขึ้น ก็น่าจะเป็นปัจจัยเสริมให้มีการผลิตและนำเข้าสินค้าประมงเพิ่มขึ้นไปด้วย

Mr.Farukh แจ้งว่า ภาคการประมงในปากีสถานมีทั้งในเมืองการาจีและเมืองบาโลจิสถาน โดยทรัพยากรสัตว์น้ำในปากีสถานก็ยังมีปริมาณอยู่มากพอสมควร ขณะนี้มีบริษัทของจีนและเกาหลีใต้ เข้าไปลงทุนเปิดบริษัทผลิตสินค้าประมงอยู่บ้างแต่ก็ยังน้อยราย จึงจำเป็นที่ปากีสถานต้องเรียนรู้ Know How ในการผลิตให้มากขึ้น เพื่อปรับปรุงภาคการผลิต สำหรับปัญหาการติดตามโรงงานที่พบปัญหาในขณะนี้ มาจากการที่มีพ่อค้าคนกลาง (ที่ไม่มีโรงงาน) รับคำสั่งซื้อมา และนำไปสั่งผลิตตามโรงงานต่างๆ จึงทำให้ไม่สามารถติดตามโรงงานที่พบปัญหาเหล่านี้ได้ ในส่วนของโรงงานที่ดีที่ผลิตสินค้าประมงในปากีสถาน ทางสถานฑูตฯ จะนำส่งรายชื่อบริษัทให้กับสมาคมฯ เพื่อนำไปใช้ในการพิจารณาก่อนทำการค้าร่วมกัน และหากเกิดปัญหาขึ้นทางสถานฑูตฯ ยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการติดตามโรงงานที่พบปัญหา

ในการนี้ Mr.Farukh ได้ขอบคุณสมาคมฯ ที่ให้ความร่วมมือในการผลักดันและส่งเสริมการค้าสินค้าประมงระหว่างทั้งสองประเทศด้วยดีเสมอมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสัมพันธ์ทางการค้าสินค้าประมงระหว่างทั้งสองประเทศจะดีขึ้นมากกว่านี้ในอนาคต