คณะผู้วิจัยได้มีการนำเสนอโครงการย่อย 1 ต้นแบบโลจิสติกส์ในการขนส่งกุ้งก้ามกรามมีชีวิตแบบไม่ใช้น้ำสำหรับสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้ง​ โดยกรมประมงให้ความสำคัญต่อการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามซึ่งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีอนาคตสำคัญ โดยสถิติเมื่อปี 2562 มีปริมาณ 22,000 ตัน มูลค่าประมาณ 5,172 ล้านบาท แหล่งเพาะเลี้ยงสำคัญอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม และพื้นที่แหล่งน้ำในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีตลาดหลักภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา มาเลเซีย​

คณะผู้ทำวิจัยฯ​ ได้ทำวิจัยการขนส่งกุ้งก้ามกรามมีชีวิตแบบไม่ใช้น้ำในเชิงพาณิชย์โดยอิงหลักการระบบทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ โดยการเปลี่ยนจากลมร้อนรมเย็นเป็นระบบน้ำร้อนและน้ำเย็นแทน และค่อยๆ ลดอุณหภูมิความเย็นที่ -10 องศาเซลเซียส และใช้เวลาในการทำสลบที่ 1 ชั่วโมง จากการทดลอง ระยะเวลาการขนส่ง 10 ชั่วโมง กุ้งมีอัตราการรอดที่ ร้อยละ 95 เมื่อทำให้กุ้งฟื้น จากการทดลองกุ้งจะมีชีวิตเฉลี่ยได้นาน 3 วัน

ความคาดหวังในอนาคตในการนำงานวิจัยไปใช้เพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ คือการขยายตลาดส่งออกไปยัง จีน ฮ่องกง เกาหลี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และช่วยรักษาคุณภาพของสินค้า

ทั้งนี้ เมื่อมีการดำเนินการเชิงพาณิชย์ กรมประมงจะต้องเข้าไปช่วยวางแผนให้กับเกษตรกรในการผลิตกุ้งให้ได้ปริมาณสม่ำเสมอ​ มีคุณภาพมาตรฐานในระดับสินค้าพรีเมียม