สมาคมฯ โดยคุณเสาวนีย์ คำแฝง ผู้อำนวยการสมาคมฯ และนายประมุข ตะเคียนคาม ผู้จัดการฝ่ายบริการข้อมูลวิชาการ เข้าร่วมการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อจัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการประมงต่างประเทศของกรมประมง พ.ศ. 2566-2570 โดยมีนายชลธิศักดิ์ ชาวปากน้ำ ผู้อำนวยการกองประมงต่างประเทศ เป็นประธานที่ประชุม โดยมีสาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้

จากการประชุมคณะทำงานในครั้งก่อน ที่ประชุมได้เสนอให้มีการจัดทำร่างแผนปฏิบัติการฯ โดยให้นำเอานโยบายและแผนบริหารจัดการประมง พ.ศ. 2566 - 2570 มาใช้อ้างอิง ซึ่งประกอบด้วยนโยบาย 4 ด้าน ได้แก่

1) นโยบายการพัฒนาการประมงในน่านน้ำไทย

2) นโยบายการส่งเสริม พัฒนาและแก้ไขปัญหาการประมงนอกน่านน้ำไทย

3) นโยบายการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศ

4) นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องด้านการประมงของประเทศ

โดยในการประชุมครั้งนี้ เป็นการพิจารณานโยบาย 2 ด้าน ได้แก่ นโยบายการส่งเสริมและพัฒนาปัญหาการประมงนอกน่านน้ำไทย และ นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องด้านการประมงของประเทศ ซึ่งแบ่งประเด็นการพิจารณา ดังนี้

ประเด็นด้านการประมงนอกน่านน้ำไทย ผู้แทนจากสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า การประมงนอกน่านน้ำไทยยังขาดความสามารถในการแข่งขันและการผลักดันจากภาครัฐในหลายมิติ อาทิ ด้านกฎระเบียบ เอกสาร ระบบการติดตามเรือ แรงงาน และการเจรจาเพื่อให้เรือประมงของไทยสามารถไปทำการประมงนอกน่านน้ำได้ โดยในปัจจุบันมีเรือประมงไทยเพียง 2 ลำเท่านั้นที่ไปทำการประมงนอกน่านน้ำได้ จึงเสนอให้ร่างแผนปฏิบัติการฯ มีการจัดตั้ง thailand team เพื่อพิจารณาและดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่การประชุมเตรียมการ การจัดทำท่าทีในการเจรจาร่วมรัฐและเอกชน รวมถึงการประเมินความเป็นไปได้ในการนำเรือประมงไทยไปทำการประมงนอกน่านน้ำเริ่มต้นที่ประเทศอินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี เมียนมาร์ มาเลเซีย ตะวันออกกลาง ไมโครนีเซีย IOTC และ WCPFC เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังเสนอให้เพิ่มช่องทางการติดต่อสำหรับให้ความช่วยเหลือเรือประมงไทยในต่างประเทศในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน รวมถึงสร้างบุคลากรให้มีทักษะในด้านการเจรจาระหว่างประเทศด้วย

ในส่วนของสมาคมฯ ได้เสนอให้มีการประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการพัฒนาการประมงนอกน่านน้ำของไทย รวมถึงการให้ความสำคัญในการตอบโต้ข่าวลบด้านแรงงานและการให้ข้อเท็จจริงด้านการบริหารจัดการแรงงานภาคประมง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของสินค้าประมงไทย

ประเด็นด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องด้านการประมงของประเทศ ที่ประชุมได้เสนอประเด็นเพื่อจัดทำร่างแผนปฏิบัติการฯ โดย

สมาคมฯ เสนอให้ลดอุปสรรคในการนำเข้าสินค้าประมงเพื่อนำมาทดแทนวัตถุดิบที่ขาดแคลนในประเทศ รวมถึงอัพเดทกฎระเบียบและมาตรฐานของต่างประเทศให้เป็นปัจจุบันและมีระบบการแจ้งเตือนผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมการรองรับกฎระเบียบและมาตรฐานนั้น นอกจากนี้ ยังขอให้เพิ่มในส่วนของการสนับสนุนงานวิจัยและงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับโครงการการปรับปรุงการทำประมงอย่างยั่งยืน (Fishery Improvement Project : FIP) รวมถึงโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากมาตรการทางการค้าของคู่ค้า อาทิ carbon credit, สิ่งแวดล้อม, Green Deal เป็นต้น

สมาคมฯ ยังเสนอเพิ่มเติมในส่วนของประเด็นด้านการจัดทำมาตรฐาน GLP (Good Labour Practice) โดยอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และ ILO และขอให้เพิ่มในส่วนของการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมต่อเนื่องประมงผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า, การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ , เวทีการเจรจาหรือความตกลงที่เกี่ยวข้องกับสินค้าประมง และขอให้มีการจัดทำสื่อและเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นฉบับภาษาอังกฤษเพื่อให้ง่ายต่อการประชาสัมพันธ์กับต่างประเทศและเอกชนสามารถนำไปใช้ในการช่วยประชาสัมพันธ์ต่อได้

ทั้งนี้ กรมประมงรับประเด็นที่เสนอจากที่ประชุมเพื่อนำไประบุในร่างแผนปฏิบัติการฯ โดยอาจมีการจัดการประชุมคณะทำงานกลุ่มย่อยในลักษณะเดียวกันนี้อีก 2 ครั้ง เพื่อพิจารณาในประเด็นการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการพัฒนาประมงในน่านน้ำไทย เพื่อให้ครอบคลุมนโยบายทั้ง 4 ด้าน โดยคาดว่า ร่างแผนปฏิบัติการฯ จะแล้วเสร็จในช่วงกลางเดือนเมษายน 2566 และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะทำงานฯ เพื่อขอความเห็นต่อไป