3. จากการสัมภาษณ์ ทีมสัมภาษณ์ได้สอบถามความเป็นมาของการจัดทำโครงการวิจัย ซึ่งสมาคมฯ ได้ชี้่แจงว่า ประเทศผู้นำเข้าสินค้าประมงหลักของไทยได้เล็งเห็นว่า ทรัพยากรทางทะเลของไทยบางชนิดเริ่มมีแนวโน้มลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง จึงผลักดันให้มีการจัดทำแนวทางการปรับปรุงการทำการประมง (Fishery Improvement Project : FIP) เพื่อให้ทรัพยากรทางทะเลฟื้นฟูและมีความยั่งยืนในอนาคต โดยสินค้าประมงที่ถูกผลักดันในระยะต้น ได้แก่ สินค้าปูม้า และสินค้าประมงที่ได้จากการประมงอวนลากและอวนล้อม ตามลำดับ ในส่วนของสมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจาก สวก. มาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ก็ไม่พบปัญหาการของบประมาณสนับสนุนการวิจัย และขอขอบคุณ สวก. ที่ยังคงไว้วางใจสมาคมฯ และคณะนักวิจัยภายใต้โครงการฯ โดยการจัดทำโครงการ FIP ปูม้านี้ ทำให้ภาพลักษณ์สินค้าของปูม้าของไทยดีขึ้น รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคทั่วโลกว่า มีการจัดทำโครงการด้านความยั่งยืน ซึ่งสามารถดูข้อมูลภาพรวมได้จากเวปไซต์
Fisheryprogress.org และคิดเป็นปริมาณการส่งออกกว่า 3,000 ตันต่อปี มูลค่า 1,100 ล้านบาท นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้เสนอให้ สวก. ยังคงให้การสนับสนุนโครงการ FIP ต่อไป และหากในอนาคตมี FIP สินค้าประมงชนิดอื่นที่จำเป้นต้องจัดทำ ก็อยากให้ ทาง สวก. พิจารณาสนับสนุนเพิ่มเติมด้วย