โครงการ Business Liaison Program

วันที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00-15.30 น. ณ ห้องประชุมสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย

สมาคมฯ โดยคุณอนุชา เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมฯ, คุณชูพงษ์ ลือสุขประเสริฐ เลขาธิการสมาคมฯ, คุณเสาวนีย์ คำแฝง ผู้อำนวยการสมาคมฯ และคุณนารีรัตน์ จันทร์ทอง รองผู้อำนวยการสมาคมฯ เข้าร่วมให้สัมภาษณ์กับธนาคารแห่งประเทศไทย โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดทำโครงการ Business Liaison Program เพื่อสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ 800 บริษัททั่วประเทศ และรวบรวมข้อมูลก่อนปรับเป็นแนวทางในการส่งเสริมภาคธุรกิจในอนาคต

จากการสัมภาษณ์ คุณอนุชา ได้ชี้แจงว่า สมาคมฯ มีสมาชิก 5 กลุ่ม ได้แก่ กุ้ง หมึก ปลา ปู และอาหารพร้อมบริโภค ในส่วนของการส่งออกอาหารทะเล ไทยมีการส่งออกเฉลี่ย ปีละ 530,000 ตัน และมีการนำเข้า 1,780,000 ตัน สำหรับสินค้าที่ไทยเคยเป็นผู้ส่งออกหลักอย่างกุ้ง ซึ่งเคยมีผลผลิต 600,000 ตัน ขณะนี้เหลือเพียง 250,000 ตัน เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคกุ้ง ในส่วนของผู้ประกอบการผลิตและส่งออกสินค้าประมงอื่นๆ ก็เริ่มหันมาผลิตสินค้าในกลุ่มที่เป็น Value Added มากขึ้น

คุณชูพงษ์ ได้เสริมว่า กุ้งจัดเป็นสินค้า High Value ซึ่งจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ซบเซา ผู้บริโภคก็จะลดการบริโภคกุ้งลงก่อนเป็นอย่างแรก โดยสัดส่วนตลาดการส่งออกกุ้ง แบ่งเป็น สหรัฐฯ ร้อยละ 25 จีน ร้อยละ 25 ญี่ปุ่น ร้อยละ 25 (โดยแต่ก่อนไทยเคยส่งออกกุ้งไปยังสหรัฐฯ ร้อยละ 75)

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยมีประเด็นสอบถามข้อเรียกร้องของภาคเอกชนที่ต้องการให้รัฐและธนาคารแห่งประเทศไทยสนับสนุน โดยทางคุณอนุชาได้เสนอ 5 ประเด็น ได้แก่

1. การเก็บค่าธรรมเนียมการนำเข้าสัตว์น้ำของกรมประมง ที่อัตรา 20 บาทต่อกิโลกรัม

2. การเก็บค่าธรรมเนียมตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ ในอัตรา 1 บาทต่อกิโลกรัม

3. การปรับขึ้นค่าแรง 400 บาทั่วประเทศ จะทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างมาก และไม่สามารถแข่งขันได้

4. การเร่งเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป


5. ผู้ประกอบการยังคงจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมาใช้ในการผลิตและส่งออก ขอให้รัฐอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการด้วย


Public on 6th September 2022
Copyright of Thai Frozen Foods Association