สรุปสาระสำคัญดังนี้

1. ประชาสัมพันธ์การใช้เงินสกุลท้องถิ่นเพื่อการค้า โดย คุณสรพล เริงวรรณ รองผู้อํานวยการฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย

ปัญหาการใช้เงินสกุลท้องถิ่นร่วมกัน เช่น อัตราแลกเปลี่ยน ต้นทุนแพง ทำธุรกรรมไม่สะดวก วิธีการแก้ไขปัญหา คือ ร่วมมือกับธนาคารกลางและทางการของประเทศคู่ค้า

ธนาคารแห่งประเทศไทย จะได้มีการประชาสัมพันธ์เรื่องการสนับสนุนใช้เงินสกุลท้องถิ่นให้มากขึ้น

การใช้อยู่ที่ตัวผู้ประกอบการถึงความเหมาะสมด้วย และสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งหากผู้ประกอบการอยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ หรือในเวปไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย

ดอลล่าร์แข็ง บาทอ่อน เป็นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ แต่คาดว่าปีนี้คาดการณ์ว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะขึ้นมาอีกเล็กน้อย ก็จะทำให้ดอลล่าร์แข็งขึ้นไปอีกเล็กน้อย แต่ไม่ได้มากนัก

รับชำระ ซื้อขายราคาน้ำมัน จะมีการปรับเปลี่ยนจากดอลล่าร์เป็นเงินหยวนหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ดูคาดว่าทำได้ยาก แต่ก็อาจมีหลายประเทศเช่น รัสเซีย จีน ที่อาจจะมีความพยายามในการดำเนินการอยู่ อนาคตอาจจะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่จะหันมาใช้เงินสกุลท้องถิ่นมากขึ้น

ตอนนี้นอกจากเงินหยวน ก็มีการเริ่มหารือระหว่างรัฐในสกุลเงินริงกิต แถบ Middle East เงินสกุลเพื่อนบ้าน CLM ซึ่งมีการใช้เงินบาทมากขึ้น

2. ค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม (Surcharge) จากมาตราการด้านสิ่งแวดล้อม EU ETS (EU Emission Trading System) ต่อการขนส่งสินค้าทางทะเล

EU ETS หรือ EU Emissions Trading System เป็นหนึ่งในมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป เป็นตลาดในการเทรด Carbon Credit โดยใช้ในยุโรปเป็นหลัก ปัจจุบันมีการขยายขอบเขตครอบคลุมภาคการขนส่งสินค้าทางทะเล

!!โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 บังคับเรือทุกลำ ที่เข้าออกท่าเรือในยุโรป หรือมีการผ่านแดน หรือการถ่ายลำใน ท่าเรือยุโรป ให้มีการ Monitor และ Report การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการขนส่งทางสินค้าทะเล และมีการเรียกเก็บเงินตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission) ซึ่งหมายความว่า จะมีการเรียกเก็บเงินต่อมายังผู้ส่งสินค้า (Shipper) อีกด้วย