สมาคมฯ โดย คุณตรีรัตน์ เชาวน์ทวี ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการกลุ่มผลิตภัณฑ์ปู พร้อมด้วยคณะนักวิจัย (ศ.ดร.ทวนทอง จุฑาเกตุ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, ผศ.ดร.อมรศักดิ์ สวัสดี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ ผศ.ดร.ธนัสพงศ์ โภควนิช มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ Asia Pacific FIP Communuty of Practice Workshop (FIP CoP) เพื่อแลกเปลี่ยนความก้าวหน้า ประเด็นความท้าทายและแนวทางการจัดทำโครงการปรับปรุงการทำประมงอย่างยั่งยืน (Fishery Improvement Project : FIP) โดยสาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้

ที่ประชุมได้มีการจัดกลุ่มขอข้อคิดเห็นจากผู้ประสานงาน FIP ทั่วภูมิภาคเอเชียว่า มีการดำเนินการ ประเด็นความท้าทาย และปัจจัยที่ทำให้การดำเนินการ FIP เกิดความล้มเหลวอย่างไรบ้าง โดยหลายประเทศ แจ้งว่า ทั่วโลกเริ่มมีการหันมาให้ความสำคัญในประเด็นการทำการประมงอย่างยั่งยืนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคู่ค้าในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป รวมถึงบางส่วนของเอเชียแล้ว ซึ่งใช้เวปไซต์ Fisheryprogress.org เป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ความก้าวหน้าแต่ละโครงการฯ

ในส่วนของสมาคมฯ คุณตรีรัตน์ ได้ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับการจัดทำ FIP ปูม้าของไทยด้วย โดยชี้แจงว่า การจัดทำ FIP ปูม้าของไทยมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับความร่วมมืออันดีจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถาบันการศึกษา กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานอย่างดีจาก NFI Crab Council และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ซึ่งน่าจะเข้าสู่กระบวนการ Full Assessment ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำนโยบายด้านแรงงานและสังคม (Social Responsibility Policy) มาใช้ในการประเมินความก้าวหน้าโครงการ FIP ในภูมิภาคเอเชียด้วย โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ประเด็นด้านแรงงานในการทำการประมงค่อนข้างเป้นประเด็นอ่อนไหว และแต่ละประเทศยังมีประสบการณ์ในการประเมินด้านนี้ไม่มากนัก จึงอาจต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวสักระยะหนึ่ง ซึ่งคณะผู้จัดงานได้เสนอว่า หากประเทศใดสนใจทำการประเมินด้านแรงงานและสังคม อาจส่งข้อเสนอโครงการเพื่อของบสนับสนุนต่อหน่วยงาน Resources Legacy Funds (RLF) ได้

ทั้งนี้ ทางคณะผู้จัดงาน ได้ขอบคุณมายังสมาคมฯ และคณะนักวิจัยที่เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ และหวังว่าจะได้มีการดำเนินงานร่วมกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ FIP ในอนาคต